ไฟล์ Manifest - แซนด์บ็อกซ์

กำหนดคอลเล็กชันของหน้าส่วนขยายที่จะแสดงในต้นทางที่ไม่ซ้ำที่ทำแซนด์บ็อกซ์ นโยบายรักษาความปลอดภัยเนื้อหาที่หน้าเว็บแซนด์บ็อกซ์ของส่วนขยายใช้จะระบุไว้ในฟิลด์ "content_security_policy"

การอยู่ในแซนด์บ็อกซ์มีผล 2 ประการดังนี้

  1. หน้าที่ทำแซนด์บ็อกซ์จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึง API ส่วนขยาย หรือการเข้าถึงโดยตรง หน้าเว็บที่ไม่ได้อยู่ในแซนด์บ็อกซ์ (อาจสื่อสารกับหน้าเว็บโดยใช้ postMessage())
  2. หน้าเว็บแซนด์บ็อกซ์ไม่อยู่ภายใต้นโยบายรักษาความปลอดภัยเนื้อหา (CSP) ที่ใช้โดยบริการอื่นๆ ส่วนขยาย (มีค่า CSP แยกต่างหาก) ซึ่งหมายความว่าสามารถ ใช้สคริปต์ในหน้าและ eval()

ตัวอย่างเช่น ต่อไปนี้เป็นวิธีระบุว่าจะแสดงหน้าส่วนขยายสองหน้าในแซนด์บ็อกซ์ที่มี CSP ที่กำหนดเอง:

{
  ...
  "content_security_policy": {
    "sandbox": "sandbox allow-scripts; script-src 'self' https://example.com"
  },
  "sandbox": {
    "pages": [
      "page1.html",
      "directory/page2.html"
    ]
  },
  ...
}

หากไม่ได้ระบุไว้ ค่าเริ่มต้น "content_security_policy" จะเป็น sandbox allow-scripts allow-forms allow-popups allow-modals; script-src 'self' 'unsafe-inline' 'unsafe-eval'; child-src 'self';

คุณระบุค่า CSP เพื่อจำกัดแซนด์บ็อกซ์ให้มากยิ่งขึ้นได้ แต่ต้องรวมค่า คำสั่ง "sandbox" และต้องไม่มีโทเค็น allow-same-origin (ดูแท็ก HTML5 ของโทเค็นแซนด์บ็อกซ์ที่เป็นไปได้)

โปรดทราบว่าคุณจำเป็นต้องแสดงรายการหน้าเว็บที่คุณคาดว่าจะโหลดในหน้าต่างหรือเฟรมเท่านั้น แหล่งข้อมูล ใช้โดยหน้าเว็บที่แซนด์บ็อกซ์ (เช่น สไตล์ชีตหรือไฟล์ที่มา JavaScript) ไม่จำเป็นต้องปรากฏในส่วน pages เนื่องจากจะใช้แซนด์บ็อกซ์ของเฟรมที่ฝังตำแหน่งอยู่

"การใช้ eval() ในส่วนขยาย Chrome" ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ เวิร์กโฟลว์แซนด์บ็อกซ์ที่ทำให้สามารถใช้ไลบรารีที่อาจมีปัญหาในการดำเนินการภายใต้ นโยบายรักษาความปลอดภัยเนื้อหาเริ่มต้นของส่วนขยาย